บ้านนอร์ดิก คือ เทรนด์บ้านแนวใหม่

บ้านนอร์ดิก คือ เทรนด์บ้านแนวใหม่ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับคำว่า นอร์ดิก (Nordic) กันก่อนว่าคืออะไร นอร์ดิก (Nordic) เป็นคำที่ใช้เรียกสถานที่บริเวณประเเทศแถบสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) คือกรุ๊ปประเทศยุโรปเหนือ ประกอบไปด้วย 3 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ ประเทศสวีเดน ประเทศนอร์เวย์ ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งจะมีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น มีหิมะตก มีแสงแดดน้อย ฝนตกน้อย

บ้านนอร์ดิก คือ เทรนด์บ้านแนวใหม่

บ้านนอร์ดิก คือ เทรนด์บ้านแนวใหม่

บ้านนอร์ดิก (Nordic House) เป็นการสร้างบ้านให้กลมกลืนกับธรรมชาติให้เยอะที่สุด ทั้งยังด้านรูปทรงการใช้วัสดุน้อย การใช้สีเป็นสีโทนที่กลมกลืนกับธรรมชาติ และก็ภายในตัวบ้านจะโปร่งโล่งมาก ออกแนวมินิมอล

เน้นกระจกบานใหญ่ๆเต็มบานขึ้นไปถึงหน้าจั่วเลย และจะไม่มีห้องใตัหลังคา หรืิอทำฝ้าแบบบ้านเรา เพื่อรับแสงแดดเข้ามาภายในบ้านแบบเต็มๆ

ลักษณะเด่นของบ้านสไตล์นอร์ดิก เป็นอย่างไร? – บ้านนอร์ดิก คือ เทรนด์บ้านแนวใหม่

บ้านนอร์ติก การออกแบบตัวอาคาร ลักษณะเป็นทรงเรขาคณิตที่มองเรียบง่าย สบายตา ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน หรือเกินความจำเป็น เส้นสายที่สะอาด เป็นเส้นนำสายตาดึงดูดความสนใจ หลังคาทรงจั่วสูง ภายในโปร่งโล่ง สบาย การออกแบบที่คำนึงถึงผลดีใช้สอย รวมทั้งเด่นด้วยความงดงาม เน้นช่องแสงจากกระจกในการรับแสงจากธรรมชาติ

การยกจั่วสูงที่ทำให้หลังคาลาดชัน ซึ่งความลาดเอียงในระดับที่มากกว่าปกติจะช่วยให้น้ำฝนไหลลงด้านล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่เกิดน้ำขังรอบๆหลังคาจนกระทั่งมีการรั่วซึมได้ง่าย นอกจากนี้โครงหลังคาที่สูงยังช่วยให้ภายในตัวบ้านโปร่งโล่ง อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี 

แม้เสริมช่องระบายอากาศเพิ่มจะเอื้อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ภายในบ้านอยู่เย็นสบายตลอดเวลา เน้นความเป็นธรรมชาติ บรรยากาศของความเรียบง่าย สงบ อบอุ่นและก็ผ่อนคลายแก่ผู้อยู่อาศัย มักตกแต่งด้วยโทนสีของธรรมชาติ เช่น การเลือกใช้โทนสีขาวเป็นสีพื้น สีเอิร์ธโทน อย่างสีน้ำตาลของไม้ ฯลฯ

เมื่อสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก

จุดควรระวัง เมื่อสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก

บ้านสไตล์ Nordic หรือ Modern Barn มีต้นกำเนิดมาจากสถาปัตยกรรมในยุโรป ซึ่งเป็นโซนเมืองหนาวผู้อยู่อาศัยจึงต้องการความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ การออกแบบบ้านก็เลยเน้นเปิดช่องแสง เพื่อสามารถนำแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาสู่ตึกได้ แล้วก็ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรม ที่ได้รับอิทธิพลจากโรงนาที่ไม่มีกันสาด ดังนั้น การยกรูปแบบของนอร์ดิกมาใช้เลย โดยไม่ปรับประยุกต์ให้กับบริบทของเมืองไทย จะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ สิ่งที่ควรระวัง มีอยู่ 3 ประการหลัก ดังนี้

  • บ้านนอร์ดิก กับปัญหาความร้อน

หลายๆคน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ร้อนแน่…บ้านแบบนี้” ซึ่งจะต้องสารภาพว่า จริงบางส่วน เพราะด้วยหลังคาทรงจั่วแบบไร้ชายคา รวมทั้งการใช้กระจกเป็นองค์ประกอบของบ้านค่อนข้างมากมาย ย่อมทำให้บ้านได้รับความร้อนไปสู่ภายในได้มากขึ้น แต่ว่าถ้าวางแผนงานให้ดีตั้งแต่ต้น 

ปัญหานี้ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วย การออกแบบ ตัวอย่างเช่น การเลือกทิศทางห้องแต่ละห้อง ให้เหมาะกับทิศทางแสงแดด ห้องที่ไม่เน้นช่องเปิดมากให้ไว้ฝั่งทิศใต้ รวมทั้งทิศตะวันตก ส่วนห้องที่มีช่องกระจกบานใหญ่ เลือกไว้ในทางทิศเหนือ กรณีบ้านที่เลี่ยงทิศเปิดไม่ได้ เพราะว่าบังคับด้วยวิว หรือมุมหน้าบ้าน ให้ออกแบบอาคารลักษณะเว้าเข้าไป เพื่อจุดเว้าเป็นชายคาโดยอัตโนมัติ

นอกจากการออกแบบแล้ว วัสดุก็มีส่วนสำคัญมาก เช่น การเลือกทำผนังอิฐ 2 ชั้น การเลือกสิ่งของมุงหลังคา ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน พร้อมจัดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อน และฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา โดยเฉพาะจุดที่ต้องการทำฝ้าสูงโปร่งตามแนวจั่ว จะต้องเพิ่มคุณสมบัติกันความร้อนมากเป็นพิเศษ 

หรือถ้าต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการหมุนเวียนอากาศด้วยกลไกลธรรมชาติ สามารถใช้ระบบ Active Airflow ที่จัดตั้งบนหลังคาทรงจั่วได้ โดยก่อนจัดตั้งจะมีวิศวกรมาตรวจสอบให้ก่อน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเป็นต้นไม้ ช่วยให้ บ้านสไตล์นอร์ติก ดูมีชีวิตชีวา ลดอุณหภูมิร้อนทางสายตาได้เป็นอย่างดี

บ้านนอร์ดิก ฝนสาด ผนังชื้น
  • บ้านนอร์ดิก ฝนสาด ผนังชื้น

เสน่ห์ของบ้านModern Barnเป็นเส้นสายของหลังคาแบบไร้ชายคา ถ้าใส่กันสาดเข้าไป อาจทำให้เสน่ห์ของบ้านสไตล์นี้ลดลงได้ เจ้าของบ้าน ก็เลยต้องทำความเข้าใจ เพื่อออกแบบรับมือกับความชื้นบนผนัง และฝนสาดให้ได้ตั้งแต่ต้น เช่น จุดพักผ่อนสำคัญอย่างห้องนั่งเล่น ให้ออกแบบด้วยวิธีการร่นผนังเว้าเข้าไป 

เพื่อหลังคาทำหน้าที่เป็นกันสาดไปในตัว ส่วนปัญหาฝนสาดบริเวณหน้าต่างฝั่งที่ไม่มีชายคา จำเป็นต้องเลือกบานหน้าต่างขอบอtลูมิเนียม หรือไวนิล จะช่วยป้องกันน้ำซึมได้ดีมากยิ่งกว่าวงกบไม้ ส่วนปัญหาผนังชื้น สามารถป้องกันได้ด้วยการทาสีที่มีคุณสมบัติปกป้องความชื้น ป้องกันเชื้อรา

กรณีอยากได้ทำระเบียงพัก ให้ออกแบบเฉียงยื่นออกจากตัวบ้าน โดยเลือกใช้หลังคากล่องแบน จะช่วยทำให้ภาพรวมของบ้านมองเข้ากัน การมีเฉลียง ก็เลยช่วยกันฝนสาด และกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้

  • หลังคารั่วซึม

แม้ว่า บ้าน Modern Barn จะมีจั่วสูง แต่ก็อาจเกิดปัญหารั่วซึมบนหลังคาได้ หากขาดการมุงหลังคาที่ดี การรับมือกับปัญหานี้ สามารถทำได้ด้วยการการออกแบบความลาดเอียงของหลังคาให้เหมาะสมกับรุ่นวัสดุหลังคานั้นๆเช่น ใช้หลังคากระเบื้องแผ่นเรียบ แม้กระนั้นหากต้องการให้การระบายน้ำทำได้ดีขึ้น ควรจะออกแบบให้หลังคาชันมากขึ้นที่ 30-35 องศา จะช่วยลดปัญหารั่วซึม และปัญหาน้ำไหลย้อนได้

บ้านสไตล์นอร์ดิกมีที่มาอย่างไร

ด้วยการดำเนินชีวิต วัฒนธรรม แล้วก็แนวคิดของคนแถบยุโรปเหนือ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ ก็เลยได้มีการหยิบยืมรูปทรงธรรมชาติมาใช้ (Organic Form) เน้นความเรียบง่าย อุปกรณ์ที่โชว์ลวดลายเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของธรรมชาติ ดังเช่น ลวดลายบนแผ่นไม้ ที่จะถูกนำมาแต่งให้ยังคงต้นแบบความงามทางธรรมชาติ แล้วก็ลดทอนความซับซ้อนให้มองเรียบง่าย สบายตามากขึ้น ด้วยสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น มีขณะหน้าร้อนที่สั้น

บ้านนอร์ดิกก็เลยเน้นการเชื่อมต่อพื้นทิ่ภายในตึกกับธรรมชาติภายนอก และก็มีการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้เยอะ เช่น พื้นผนังไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ โทนสีธรรมชาติ (Neutral) หรือสีกึ่งกลาง ดังเช่น สีขาว สีเทา สีเบจ สีอ่อน และก็ในสมัยหลังก็มีการนำสีโทนสดใสเข้ามาใช้เพื่อสร้างสีสันให้มากขึ้นรวมทั้งการประดับต้นไม้ไว้ตามจุดต่างๆก็ช่วยสร้างความเป็นนอร์ดิกได้ชัดขึ้น

 Nordic

ลักษณะเด่นของบ้านสไตล์ Nordic ที่ปรับให้เหมาะกับเมืองไทย

ทำไมสไตล์บ้านของเมืองหนาว ถึงได้รับความนิยมในเมืองไทยที่แสนอบอ้าวกันล่ะ? นั่นก็เพราะโดยหลักการการทำบ้านนอร์ดิก จะเน้นการเปิดรับแสงธรรมชาติ รวมทั้งการเปิดพื้นที่โล่งเพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ทั้งยังสายลมและก็แสงแดด ซึ่งผู้ออกแบบสามารถปรับให้เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทยที่เป็นลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้น (Tropical climate) ได้ไม่ยาก และก็ต้องให้ความสำคัญกับทิศทางลม กับช่องแสงเยอะขึ้นกว่าบ้านสไตล์อื่น

  • เส้นสายที่เรียบง่าย รูปทรงที่ไม่ซับซ้อน

การออกแบบตัวอาคารลักษณะเป็นทรงเรขาคณติที่ดูเรียบง่าย สบายตา ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อนเกินความจำเป็น เส้นสายที่สะอาด เป็นเส้นนำสายตาดึงดูดความสนใจ

  • จั่วสูง ภายในตัวบ้านโปร่ง โครงหลังคาลาดชัน มีกระจกเยอะหรือสูงเพื่อรับแสงธรรมชาติ

ตัวหลังคาจะใช้รูปแบบทรงจั่วสูง ภายในโปร่งโล่งสบาย การออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย รวมทั้งโดดเด่นด้วยความงาม เน้นช่องแสงจากกระจกในการรับแสดงธรรมชาติ การยกจั่วสูงที่ทำให้หลังคาลาดชัน ซึ่งความลาดเอียงในระดับที่มากกว่าธรรมดาจะช่วยให้น้ำฝนไหลลงด้านล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่เกิดน้ำขังบริเวณหลังคาจนมีการรั่วซึมได้ง่าย

นอกจากนี้โครงหลังคาที่สูงยังช่วยให้ภายในตัวบ้านโปร่งโล่ง อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี หากเสริมช่องระบายอากาศเพิ่มจะเอื้อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ภายในบ้านอยู่เย็นสบายตลอดเวลา พวกเรามักจะเห็นบ้านนอร์ดิกชั้นเดียวมากกว่า แบบ 2 ชั้น

  • ใช้สีธรรมชาติ (Neutral) สีขาว เทา ดำ เบจ และก็วัสดุธรรมชาติ

เฉดสีบ้านสไตล์นอร์ดิก เน้นความเป็นธรรมชาติ “บรรยากาศ” ของความเรียบง่าย สงบ อบอุ่นแล้วก็ผ่อนคลายแก่ผู้อยู่อาศัย มักตกแต่งด้วยโทนสีของธรรมชาติ อาทิ การเลือกใช้โทนสีขาวเป็นสีพื้น, สีเอิร์ธโทนอย่างสีน้ำตาลของไม้ ฯลฯ การเลือกวัสดุตกแต่งผนังที่คุมโทน โดยปูแผ่นไม้ส่วนหนึ่ง หรืออีกด้านหนึ่งปูด้วยแผ่นหิน ซึ่งวัสดุทั้งคู่รูปแบบได้แรงบันดาลใจจากวัสดุตกแต่งบ้านตามสไตล์นอร์ดิก สะท้อนถึงอารมณ์อันสุขุม สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและก็รักในธรรมชาติที่เป็นคุณลักษณ์เด่น

ภายใน

  • เน้นทรงของเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย

เน้นงานลอยตัว ปรับเปลี่ยน เคลื่อนย้ายง่ายวัสดุที่เปลี่ยนแปลงและเคลื่อนง่ายง่ายช่วย ช่วยลดพลังงานเสียตอบรับกับเทรนโลกร้อน

  • ใช้ผนังแล้วก็เฟอร์นิเจอร์สีธรรมชาติ (Neutral)

เช่น สีขาว เทา ดำ เบจ และก็วัสดุที่มีส่วนของธรรมชาติ ผนังสีอ่อน โดยเฉพาะสีเบจอ่อนแล้วก็สีขาว จะช่วยให้บ้านดูโปร่งตา สะอาด และก็สว่าง ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย

  • ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยต้นไม้

ประดับมุมต่างๆด้วยต้นไม้ ซึ่งนอกจากความร่มรื่น ต้นไม้หลายชนิดช่วยถูอากาศภายใน รวมทั้งยังสร้างบรรยากาศ เชื่อมธรรมชาติเข้าสู่ตัวอาคารได้เป็นอย่างดี

อ่านเพิ่มเติม : บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ไม่ใหญ่แต่อบอุ่น, แบบบ้านชั้นเดียวใหม่ล่าสุด บ้านสวย, แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น ทรงสวยน่าปลูก