บ้านสไตล์เกาหลี เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะความเรียบง่าย แฝงไปด้วยเอกลักษณ์ เฉพาะตัวที่นำมาปรับใช้ เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ที่อยู่อาศัยของคนไทยได้เป็นอย่างดี

แต่งบ้านแบบเกาหลีอย่าลืม เลือกโทนสีอ่อนสบายตา ติดหน้าต่างบานใหญ่ให้ แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อความอบอุ่น อย่าลืมต้นไม้ และของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเสริมดีเทล ทำให้บ้านน่าอยู่ยิ่งกว่าเดิม

มารู้จักกันก่อนว่าบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม

  • หลังคาโค้งมนเป็นเอกลักษณ์ หลังคาบ้านสไตล์เกาหลีนี่ถือเป็นซิกเนเจอร์ ที่ใครเห็นก็จำได้ทันที โดยหลังคาบ้านแบบเกาหลีจะมีลักษณะโค้งมน ปลายยกขึ้นเล็กน้อย ได้รับอิทธิพลจากจีนหรือญี่ปุ่น
  • หลังคากระเบื้องดินเผา เพราะเกาหลีเป็นประเทศที่มีอากาศหนาว กระเบื้องดินเผา จึงเป็นวัสดุที่ป้องกัน ทั้งความร้อนและความเย็น อีกทั้งยังเข้ากับบรรยากาศ โดยรอบอีกด้วย
  • พื้นยกสูง อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ คนเกาหลีคิดค้นขึ้น คือ การสร้างบ้านพื้นยกสูง แล้วสร้างครัวให้อยู่ติดกับพื้นบ้าน เมื่อทำอาหารความร้อนก็จะเข้าสู่ตัวบ้านด้วย โดยในหน้าร้อนก็ยังช่วยให้อากาศ ไหลผ่านง่าย ทำให้บ้านเย็นลงอีกด้วย

เคล็ดลับแต่งบ้านสไตล์เกาหลี ให้น่าอยู่เหมือนหลุดมาจากซีรีย์

1.ใช้สีเอิร์ธโทน สว่าง สบายตา อบอุ่นขึ้นเป็นเท่าตัว
จะเห็นได้ว่า แบบบ้านสไตล์เกาหลี แบบดั้งเดิมจะเน้นใช้ สีโทนสว่างอย่างสีขาว สีครีม บ้านแบบโมเดิร์น ก็ใช้ได้เหมือนกัน โดยปรับเปลี่ยนมาเป็นสีเอิร์ธโทนอย่างสีเบจ สีน้ำตาลอ่อน ที่จะช่วยให้บรรยากาศ โดยรวมดูอบอุ่น สบายตา ยิ่งถ้าปูพื้นไม้เข้าไปแล้วด้วย ก็จะยิ่งฟินเป็นเท่าตัว

2.แสงธรรมชาติควรจะเข้าถึงได้รอบด้าน
แสงสว่างจากธรรมชาตินี่ ถือว่าขาดไม่ได้เลยในบ้านสไตล์เกาหลี จะเห็นได้จากหน้าต่าง และประตูที่อยู่รอบบ้าน ถึงจะเป็นบ้านทรงไหนก็ต้องมีช่องให้แสงเข้าได้ เพราะถ้าไม่มีแสงจากภายนอกถึงจะใช้สีสว่าง บ้านก็ดูไม่ปลอดโปร่งอยู่ดี จึงควรติดหน้าต่างบานใหญ่ให้แสงเข้าได้แบบปัง ๆ และยิ่งถ้าใช้กรอบไม้ จะยิ่งดูอบอุ่น คลาสสิกมากกว่าเดิม

3.เฟอร์นิเจอร์ไม้ เรียบง่าย ใช้งานได้เต็มที่
ปกติเห็น แบบบ้านเกาหลี ในซีรีย์ หรือไปคาเฟ่สไตล์เกาหลี เราก็คงจะเห็นเฟอร์นิเจอร์ ที่ใช้ตกแต่งทำจากไม้ทั้งนั้น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบนี้ก็ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศโดยรวม และยังคงความคลาสสิกไว้ ที่สำคัญจะต้องใช้ดีไซน์เรียบง่าย ไม่วุ่นวายเกินไป เพื่อคุมโทนภาพรวมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

4.ต้นไม้ประดับ เสริมความสดชื่นแบบน่ารัก ๆ
จะใช้แต่สีเอิร์ธโทนกับ ลายไม้เดี๋ยวจะน่าเบื่อไป ลองแทรกด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตา นอกจากจะสดชื่นแล้ว ยังทำให้บรรยากาศดูน่ารักขึ้นด้วย ยิ่งถ้าใช้ต้นไม้หลาย ๆ พันธุ์ หลาย ๆ ขนาด ก็จะยิ่งสร้างความน่าสนใจได้ดี แสดงถึงรสนิยมในการตกแต่ง บ้านของเจ้าของบ้านด้วย

5.ของแต่งห้องเล็ก ๆ น้อย ๆ เสริมความสมบูรณ์แบบให้กับบ้าน
สายดีเทล เน้นรายละเอียด ขอบอกเลยว่าของแต่งบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่ขาดแทบไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูป รูปปั้น แจกัน ตะกร้าใส่ของ เลือกมาใช้ได้เลยตามความชอบ แต่ที่สำคัญอย่าลืมเลือกสีสันให้เข้ากัน ไม่ใช้แบบที่ฉูดฉาดเกินไป เพื่อคุมโทนทั้งห้องให้เข้ากันได้อย่างลงตัว

แบบบ้านสไตล์เกาหลี หลังคาปั้นหยา

บ้านสไตล์เกาหลี

แบบหลังเล็กๆ ขนาดพอเหมาะ ในลักษณะ บ้าน 2 ชั้น สไตล์เกาหลี แฟนเพจบ้านไอเดียของเราได้แนะนำกันมา บ้านสวยหลังนี้ถูกออกแบบโดย สถาปนิก Sinato นักออกแบบชาวญี่ปุ่น พวกเขามีความเชี่ยวชาญ ในการออกแบบบ้านโซนเอเชียเป็นหลัก ไม่ว่าจะทรงจีน ญี่ปุ่น เกาหลี สถาปัตยกรรมเหล่านี้

มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันพอสมควร แต่จะมีเอกลักษณ์บางส่วนที่ โดดเด่นแตกต่างกันออกไป สิ่งที่มีเสน่ห์ของบ้านหลังนี้ นั่นคือ หลังคาปั้นหยา ที่ดูมีเอกลักษณ์ สำหรับหลังคาในลักษณะปั้นหยานี้ ได้รับความนิยมอย่างสูง

โดยจะมีคุณสมบัติที่สามารถเป็นกัน สาดรองรับแดดและฝนได้ทั้ง 4 ด้าน ครอบคลุมทั้งตัวอาคาร สามารถสร้างหน้าต่างได้ทุกด้านของบ้านโดยไม่ต้องต่อเติมกันสาด ลักษณะความชันของหลังคา จะเท่าสมดุลกันทุกด้าน แต่จะชันน้อยกว่าหลังคาหน้าจั่ว

บ้านสไตล์เกาหลี

ภายนอกบ้าน ตกแต่งจัดสวนเล็กน้อย พร้อมทั้งมีพื้นที่ไว้สำหรับนั่งเล่นบริเวณบ้าน จัดตั้งชุดเฟอร์นิเจอร์ โลหะริมระเบียงบ้าน ลักษณะการออกแบบอาคารดูแปลกใหม่ ซึ่งโดยปกติการออกแบบ จะเป็นทรงสี่เหลี่ยม บ้านจัดสรร

แต่สำหรับบ้านหลังนี้ ออกแบบเพื่อให้ตัดกัน กับรูปทรงของหลังคา ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย เน้นการประดับ ด้วยวัสดุไม้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว เหมาะกับวิถีชีวิตครอบครัวเล็กๆ ที่อยู่กินแบบง่าย ๆ

แบบบ้านเกาหลีชั้นเดียวรูปทรงตัวยู

บ้านเกาหลีชั้นเดียวรูปทรงตัวยู

บ้านหลังนี้มีชื่อว่า “แชนยอนดง” (Cheonyeon dong) เป็นบ้านสไตล์ฮันอกหรือสไตล์เกาหลีดั้งเดิม ผลงานการออกแบบของ guga Urban Architecture ตัวบ้านเป็นบ้านชั้นเดียวรูปทรงตัวยู มีพื้นที่ใช้สอยราว 71 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในย่านซอแดมุน ใจกลางเมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้

ซึ่งทุกวันนี้ไม่ค่อยได้เห็น บ้านโบราณแบบนี้สักเท่าไรแล้ว ในละแวกนี้เหลืออยู่ เพียงสองหลังเท่านั้น ว่าก็มีครอบครัวหนึ่งตัดสินใจย้ายมาอยู่ในบ้านหลังนี้ โดยต้องการคงอัตลักษณ์ ภายนอกไว้เหมือนเดิม ปรับเปลี่ยนแค่ การออกแบบเลย์เอาต์ภายใน

ซึ่งสถาปนิกคนเก่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รีโนเวทบ้านทรงเกาหลี ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง พลิกบ้านเก่าให้เข้า กับไลฟ์สไตล์คนเมือง ตกแต่งภายในใหม่ให้เข้ากับวิถีชีวิตของเจ้าของบ้าน ที่สำคัญนำโครงสร้าง ประตู หน้าต่าง และกระเบื้องเดิมมาผสมผสานในบ้านใหม่ได้อย่างลงตัว เนื่องจากวัสดุหลายอย่างมีคุณภาพ และแข็งแรงมาก ถึงแม้จะสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1939 แล้วก็ตาม

จุดเด่นสำคัญที่สุดของบ้านหลังนี้คงต้องยกให้ กับลานห้องโถงกลางบ้าน เนื่องจากตัวบ้านมีขนาดเล็กมาก สถาปนิกจึงต้องการสร้างห้องนั่งเล่นขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ส่วนรวมและเป็นห้องอเนกประสงค์ งานนี้ก็เลยปิ๊งไอเดียจากการใช้ประโยชน์ของลานกลางบ้าน จะได้เป็นจุดรวมตัวและเชื่อมต่อกับทุกห้องไปในตัว

โดยห้องนี้เน้นงานเหล็ก และกระจกเป็นหลัก ทำให้ห้องปลอดโล่ง โปร่งใส จนมองผ่านเข้าไป เห็นงานไม้ของบ้านฮันอกได้ อีกทั้งยังเปิดให้แสงทะลุผ่านเข้าสู่ห้องต่าง ๆ ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเปิดประตู-หน้าต่างออก ก็จะให้ความรู้สึกราวกับ พื้นที่นั่งเล่นเอาต์ดอร์อีกต่างหาก อ้อ แล้วห้องนี้ยังมีทางเชื่อมลง ไปที่หลุมหลบภัยใต้ดินด้วยนะ

ตกแต่งภายในใหม่ให้เข้ากับวิถีชีวิต

นอกเหนือจากลานห้องโถงกลางบ้านแล้ว การตกแต่งภายในก็ดีงาม น่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มตั้งแต่ฝั่งซ้ายมือของประตูบ้านที่ทำเป็นห้องสมุดหรือห้องหนังสือสำหรับเด็ก ๆ ออกแบบเน้นผนังสีขาวและชั้นวางของไม้ ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่ เน้นโทนสีขาวสะอาดตา แต่ซ่อนกิมมิกไว้ที่หน้าต่างสองชั้น ประกอบด้วยหน้าต่างกระจกและหน้าต่างไม้ลายโบราณ สามารถเลือกเปิดรับแสงสว่างได้ตามใจชอบ

เชื่อมต่อจากห้องนอนใหญ่เป็นห้องครัวและห้องกินข้าวสไตล์เกาหลีโมเดิร์น ซึ่งมองออกไปเห็นห้องโถงกลางบ้านได้ ถัดจากนั้นเป็นห้องเปียโน พร้อมห้องนอนชั้นลอยสำหรับลูกสาวคนสุดท้อง ซึ่งก็สามารถมองออกไปเห็นห้องโถงกลางบ้านได้เช่นกัน

มุมสุดของบ้านเป็นห้องนอนเล็กที่มาพร้อมกับเตียงสองชั้น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้กลิ่นอายธรรมชาติ แถมยังตัดกับผนังสีขาวได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำขนาดกำลังดีที่มาพร้อมกับอุปกรณ์สุขภัณฑ์ครบครัน ว่าไฮไลต์เด็ดอยู่ที่การนำวัสดุเก่ามาดัดแปลงใหม่ จึงกลายเป็นห้องที่มีความหลากหลาย ผสมผสานทั้งกระเบื้อง อิฐ และไม้ได้อย่างพอดี สะท้อนวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมสมัยใหม่ได้อย่างเข้ากันจริง ๆ